จอร์จินิโอ้ รุตเตอร์ กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมเขาถึงเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของทั้ง ฮอฟเฟ่นไฮม์ และ ไบรท์ตัน การย้ายจากฮอฟเฟ่นไฮม์ไปลีดส์ด้วยค่าตัว 40.5 ล้านยูโร ทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีดส์ ยูไนเต็ด และเมื่อลีดส์ขายเขาให้ไบรท์ตันในราคา 46.7 ล้านยูโร เขาก็กลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของไบรท์ตันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เส้นทางของรุตเตอร์ในอังกฤษไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกกับลีดส์ ยูไนเต็ด (2022-23) จบลงด้วยความผิดหวัง เมื่อทีมตกชั้น และเขาไม่สามารถทำประตูได้เลยจากการลงสนาม 11 นัด รวมเวลา 264 นาที
แม้จะเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แต่ซีซั่นต่อมาใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เขาค่อยๆ เรียกฟอร์มกลับมาได้ และเป็นกำลังสำคัญของลีดส์ แม้สุดท้ายจะพลาดโอกาสเลื่อนชั้น หลังพ่ายต่อเซาธ์แฮมป์ตันในรอบชิงฯ เพลย์ออฟ อย่างไรก็ตาม การกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกกับไบรท์ตันในฤดูกาลนี้ทำให้เขามีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ซึ่งเขาก็เริ่มทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นตัวเลือกหลักของทีม ลงเล่นเป็นตัวจริงไปแล้ว 17 นัด และยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
สิ่งที่ทำให้รุตเตอร์น่าสนใจ คือความสามารถในการเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก ฤดูกาลนี้เขาได้ลงเล่นทั้งตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า (Centre Forward) 9 นัด ยิงได้ 1 ประตูและทำ 1 แอสซิสต์ เล่นเป็นปีกขวา (Right Winger) 8 นัด ยิงได้ 1 ประตูและทำ 1 แอสซิสต์ รวมถึงเคยรับบทกองหน้าตัวต่ำ (Second Striker) และมิดฟิลด์ตัวรุก (Attacking Midfield) ซึ่งก็สามารถทำประตูและแอสซิสต์ได้เช่นกัน นี่คือสัญญาณที่ดีว่าเขากำลังพัฒนา และอาจเป็นหนึ่งในแข้งสำคัญของ ไบรท์ตัน ในอนาคต