ตีมู ปุ๊กกี้ ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ได้รับการยกย่องเรื่องความสามารถในการทำประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งกับ นอริช ซิตี้ กองหน้าชาวฟินแลนด์รายนี้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมตั้งแต่ซีซั่น 2018-19 ที่เขาย้ายมาจาก บรอนด์บี้ และช่วยพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จจากผลงาน 29 ประตูในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลถัดมา ปุ๊กกี้ได้สัมผัสพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก และยิงไป 11 ประตูจาก 36 นัด แม้ว่าผลงานส่วนตัวจะดีแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ทีมรอดตกชั้น
เมื่อ นอริช กลับลงไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2020-21 ปุ๊กกี้ยังคงรักษาฟอร์มเก่งของตัวเองเอาไว้ด้วยการทำ 26 ประตูจาก 41 นัด พาทีมเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในซีซั่น 2021-22 ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย เขาทำ 11 ประตูจาก 37 นัด แต่สุดท้าย นอริช ก็ตกชั้นเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาร่วมทีม ฤดูกาล 2022-23 กลายเป็นครั้งแรกที่เขาไม่สามารถพาทีมกลับขึ้นพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง โดยทำไปเพียง 10 ประตูจาก 40 นัด ก่อนจะอำลาสโมสรในฐานะนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร (88 ประตู)
ในปี 2023 ตีมู ปุ๊กกี้ ตัดสินใจย้ายไปหาความท้าทายในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ กับ มินเนโซต้า ยูไนเต็ด และโชว์ฟอร์มสุดยอดทันที ทำไป 10 ประตูจาก 14 นัด โดยมีหนึ่งเกมที่เขากดคนเดียว 4 ประตูใส่ แอลเอ แกแล็คซี่ ฤดูกาล 2024 ยังคงเป็นปีที่เขาค้าแข้งในอเมริกา แต่ผลงานเริ่มดรอปลงโดยยิงไปเพียง 4 ประตูในทุกรายการ ซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้ายก่อนที่เขาจะย้ายกลับบ้านเกิดในปี 2025 กับ เอชเจเค เฮลซิงกิ ซึ่งปัจจุบันลงเล่นไปแล้ว 3 นัด และยิงไป 2 ประตู
ตลอดเส้นทางอาชีพ ปุ๊กกี้ เป็นนักเตะที่สร้างคำถามให้กับแฟนบอลว่า ด้วยความสามารถในการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ทำไมถึงไม่มีสโมสรระดับที่สูงกว่านอริชดึงตัวไปร่วมทีม เขาเป็นกองหน้าที่พิสูจน์แล้วว่าทำผลงานได้ดีเสมอในพรีเมียร์ลีก แต่สุดท้ายก็ไม่เคยได้รับโอกาสจากสโมสรใหญ่ บางทีสิ่งนี้อาจเป็นปริศนาที่แฟนบอลหลายคนยังคงสงสัยมาจนถึงทุกวันนี้