โจเอลลิงตัน เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ยากจน วัยเด็กของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาต้องช่วยพ่อแม่ทำงานด้วยการรับจ้างส่งขนมปังในตลาดเพื่อหารายได้เสริมให้ครอบครัว แต่แม้จะต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพตั้งแต่ยังเล็ก เขาก็ยังมีความหลงใหลในฟุตบอล ตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ เขาและเพื่อนๆ ก็เริ่มเตะบอลข้างถนน แม้ว่าจะไม่มีเทคนิคที่โดดเด่นเหมือนนักเตะอาชีพ แต่ช่วงเวลานั้นทำให้เขาค้นพบพรสวรรค์ของตัวเอง
เส้นทางฟุตบอลของโจเอลลิงตันเริ่มจริงจังขึ้นเมื่ออายุ 14 ปี เมื่อเขาเข้าร่วมอะคาเดมีของ Sport Recife ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านกว่า 90 กิโลเมตร นั่นหมายความว่าเขาต้องเสียสละจากครอบครัวเพื่อเดินตามฝัน ด้วยพรสวรรค์และความมุ่งมั่น เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะเยาวชนที่ถูกจับตามอง และได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลชุด U-17 ซึ่งเขาทำไป 2 ประตูจาก 4 นัดที่ลงสนาม
เส้นทางอาชีพของเขาก้าวไปอีกขั้นเมื่อในปี 2015 ฮอฟเฟ่นไฮม์ ทีมดังจากบุนเดสลีกา เยอรมนี คว้าตัวเขาด้วยสัญญา 5 ปี แม้จะได้รับโอกาสลงสนามในบุนเดสลีกาเพียง 1 นาทีในเกมพบกับชาลเก้ แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อ ก่อนจะถูกปล่อยให้ราปิด เวียนนา ทีมดังในออสเตรียยืมตัวเป็นเวลา 2 ฤดูกาล และเขาก็พิสูจน์ตัวเองได้ด้วยการทำ 21 ประตู 9 แอสซิสต์จาก 79 นัด
ในซีซั่น 2018-19 ฮอฟเฟ่นไฮม์ดึงเขากลับมาใช้งาน และเขาก็ตอบแทนทีมด้วยการทำ 11 ประตู 9 แอสซิสต์จาก 36 นัด พร้อมทั้งทำแฮตทริกในเกมเดเอฟเบ โพคาลกับไกเซอร์สเลาเทิร์น ผลงานที่โดดเด่นทำให้ในปี 2019 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 44 ล้านยูโร คว้าตัวเขามาร่วมทีม ซึ่งในตอนนั้นเขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
อย่างไรก็ตาม พรีเมียร์ลีกไม่ใช่ลีกที่เล่นง่าย แม้ค่าตัวของเขาจะสูงลิบ แต่ผลงานกลับไม่เป็นไปตามคาด แค่เกมแรกที่ลงสนามกับอาร์เซน่อล อลัน เชียเรอร์ ตำนานของสโมสรก็ออกมาวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของเขาทันที ฤดูกาลแรกกับนิวคาสเซิ่ล เขายิงได้เพียง 2 ประตูจาก 38 นัดในพรีเมียร์ลีก น้อยเกินไปสำหรับกองหน้าที่ถูกคาดหวังให้เป็น “นิวฮอทช็อต” นั่นทำให้เขาถูกแฟนบอลและสื่ออังกฤษโจมตีอย่างหนัก ถึงขนาดถูกล้อว่าเป็น “บราซิลปลอม” และไม่มีทางประสบความสำเร็จในอังกฤษได้ ดูบอลสด ที่นี่และขอเข้ากลุ่ม ทีเด็ดบอล VIP คลิก!!
ในยุคของสตีฟ บรูซ โจเอลลิงตันลงเล่นไป 89 นัด ทำได้เพียง 10 ประตู แต่เมื่อเอ็ดดี้ ฮาว เข้ามาคุมทีม ทุกอย่างเปลี่ยนไป เขาไม่ได้ถูกมองเป็นกองหน้าเป้าหมายอีกต่อไป แต่ถูกปรับบทบาทให้เล่นในตำแหน่งที่หลากหลาย และเขาก็ทำได้ดีเกินคาด จากนักเตะที่เคยโดนวิจารณ์หนัก เขากลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรในฤดูกาล 2021-22 และได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ พร้อมทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม
จากนักเตะที่เคยถูกแฟนบอลนิวคาสเซิ่ลสบประมาท วันนี้เขากลายเป็นที่รักของ “ทูน อาร์มี่” ด้วยสไตล์การเล่นที่ทุ่มเท วิ่งไม่มีหมด และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น โจเอลลิงตัน คือสมบัติที่เคยถูกมองข้ามในยุคของสตีฟ บรูซ แต่ถูกเอ็ดดี้ ฮาว ขัดเกลาให้กลายเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของนิวคาสเซิ่ลในปัจจุบัน