มิโลส เคอร์เกซ แบ็กซ้ายดาวรุ่งชาวฮังการีวัย 21 ปี กำลังใกล้ความจริงมากขึ้นทุกขณะ โดยมีเพียงขั้นตอนด้านเอกสารและรายละเอียดทางเทคนิคที่รอการจัดการก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะประกาศเปิดตัวเขาอย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์นี้ รายงานจากสื่อหลายสำนักที่เชื่อถือได้ระบุว่า เจ้าตัวแสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการย้ายไปร่วมถิ่นแอนฟิลด์เพียงทีมเดียวเท่านั้น แม้จะได้รับความสนใจจากทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตาม ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่งสำหรับทัพหงส์แดงที่กำลังมองหาทายาทในระยะยาวของแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
มิโลส เคอร์เกซ ทำผลงานในฤดูกาล 2024/25 ได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการลงสนามครบทั้ง 38 นัดในพรีเมียร์ลีก ยิง 2 ประตู และทำ 6 แอสซิสต์ กลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักของบอร์นมัธ โดยสไตล์การเล่นของเขาถูกยกให้เป็นแบ็กซ้ายยุคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในเรื่องของความเร็ว ความแข็งแกร่ง ความแม่นยำในการเปิดบอล และการเติมเกมรุกที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับเกมรับที่รัดกุม เขายังสามารถครองบอลได้ดี เสียบอลยาก และมีจังหวะเข้าสกัดที่แม่นยำ จนได้รับคำชมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งฤดูกาล แม้จะอยู่กับบอร์นมัธได้ไม่นาน แต่เขากลายเป็นผู้เล่นที่ขาดไม่ได้ทันที
เส้นทางการเติบโตของเคอร์เกซเริ่มต้นจากการเล่นในลีกฮังการีกับสโมสร ETO FC Gyor ก่อนที่ เอซี มิลาน จะดึงเขาเข้าสู่ทีมเยาวชน แม้จะไม่ได้โอกาสในชุดใหญ่ของทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลี แต่ประสบการณ์ในระดับยุโรปช่วงเวลานั้นก็เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยขัดเกลาเขาให้พร้อมสำหรับเวทีใหญ่ในอนาคต จนในฤดูกาล 2022/23 เขาย้ายไป AZ อัลก์มาร์ และแจ้งเกิดในลีกดัตช์ทันทีด้วยผลงาน 3 ประตู 1 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 33 นัด ขณะมีอายุเพียง 19 ปี ก่อนจะได้รับความสนใจจากบอร์นมัธ และถูกดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัวราว 17.5 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญาระยะยาวถึงปี 2028
แม้ปีแรกในพรีเมียร์ลีกจะเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับตัว แต่ในฤดูกาลถัดมา เขาก็ระเบิดฟอร์มอย่างเต็มตัว กลายเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่น่าจับตามองมากที่สุดในอังกฤษ ด้วยสไตล์การเล่นที่สมดุลทั้งรุกและรับ รวมถึงคุณสมบัติที่ทีมระดับท็อปต้องการอย่างชัดเจน เขายังแสดงศักยภาพในระดับนานาชาติกับทีมชาติฮังการีในศึกยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี แม้ทีมจะตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่เคอร์เกซได้ลงเล่นครบทั้ง 3 นัดในตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายในระบบ 3-4-3 และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจจนได้รับคำชมจากทั้งแฟนบอลและกูรูหลายคน
การที่ลิเวอร์พูลกำลังจะได้ตัวเคอร์เกซมาร่วมทีมจึงถือเป็นดีลที่ลงตัวทั้งในแง่ของปัจจุบันและอนาคต ด้วยวัยเพียง 21 ปี แต่เต็มไปด้วยประสบการณ์ในลีกต่างประเทศ รวมถึงการพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกเรียบร้อยแล้ว เขาจะสามารถเข้ามาเติมความสดในตำแหน่งแบ็กซ้าย พร้อมเรียนรู้จากรุ่นพี่อย่างโรเบิร์ตสัน และเตรียมสืบทอดบทบาทในระยะยาวได้อย่างไม่ขาดตอน