ดูซาน วลาโฮวิช : จุดเปลี่ยนหรือทางแยกในเส้นทางลูกหนัง?
เส้นทางของ ดูซาน วลาโฮวิช กับสโมสรยูเวนตุส กำลังเดินมาถึงจุดสำคัญ เมื่อข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายทีมเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเว็บไซต์ Transfermarkt ได้วิเคราะห์เปอร์เซ็นต์การย้ายทีมของดาวยิงชาวเซอร์เบียรายนี้ไปยังสโมสรต่าง ๆ ที่ให้ความสนใจ ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ฤดูกาลหน้าบางทีวลาโฮวิชอาจจะไม่ได้สวมเสื้อยูเวนตุสอีกต่อไป
ย้อนกลับไปที่สมัยที่เขาแจ้งเกิดกับ ฟิออเรนติน่า วลาโฮวิชถือเป็นหนึ่งในกองหน้าดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดของยุโรป เขาซัดไปถึง 49 ประตูจาก 108 นัด รวมทุกรายการ ด้วยรูปร่าง ความเร็ว ความแข็งแกร่ง และการจบสกอร์เฉียบคม จึงไม่แปลกใจที่บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต่างจับจ้องเขาไว้แทบทุกฝีก้าว
ยูเวนตุส ไม่รอช้า ทุ่มเงินมหาศาลถึง 83.5 ล้านยูโร ในเดือนมกราคม ปี 2022 เพื่อตัดหน้าและคว้าตัวเขาจากฟิออเรนติน่ามาเสริมทัพ พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 7 ที่เคยเป็นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้กับเขา ซึ่งถือเป็นความคาดหวังสูงลิ่วตั้งแต่วันแรกที่มาถึงตูริน ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้เบอร์ 9 ในฤดูกาลถัดมา
อย่างไรก็ตาม ผลงานของเขากับ “เบียงโคเนรี่” กลับยังไม่ระเบิดฟอร์มได้อย่างต่อเนื่อง โดยจนถึงปัจจุบัน วลาโฮวิช ลงเล่นไป 145 นัด ยิงได้ 58 ประตู และทำไป 14 แอสซิสต์ ตัวเลขที่อาจถือว่าไม่เลว สำหรับกองหน้าทั่วไป แต่เมื่อมองถึงความเป็น ‘ความหวังใหม่’ ที่ยูเวนตุสหมายมั่นปั้นมือ ความคาดหวังจึงสูงกว่านั้น
ช่วงเวลาภายใต้การคุมทีมของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี คือช่วงที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นอุปสรรคต่อฟอร์มของวลาโฮวิช ด้วยระบบการเล่นที่เน้นเกมรับและไม่เปิดพื้นที่ให้กองหน้ามีอิสระมากพอ ก่อให้เกิดคำถามว่าแท้จริงแล้วเป็นที่ตัวนักเตะหรือแทคติกของโค้ชกันแน่ ขนาดเปลี่ยนจากอัลเลกรีมาเป็น ติอาโก้ ม็อตต้า และล่าสุด อีกอร์ ทูดอร์ วลาโฮวิชเองก็ยังไม่สามารถคืนฟอร์มระดับท็อปได้เท่าที่แฟน ๆ คาดหวัง
สถานการณ์ล่าสุดกำลังบีบให้เขาอาจต้องพิจารณาอนาคตใหม่ ๆ เมื่อยูเวนตุสกำลังเดินหน้าในการปิดดีลคว้าตัว โจนาธาน เดวิด กองหน้าทีมชาติแคนาดาจากลีลล์ เพื่อเข้ามาเป็นตัวหลักในแนวรุกของทีม ซึ่งหากดีลนี้สำเร็จ ก็ดูเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณว่าเวลาของวลาโฮวิชในถิ่นอลิอันซ์ สเตเดี้ยม อาจใกล้ถึงบทสรุปเต็มที
ในห้วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน เส้นทางของวลาโฮวิชอาจต้องเริ่มต้นใหม่กับสถานที่ใหม่ สโมสรใหม่ และระบบการเล่นใหม่ – ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางอาชีพ หรืออาจเป็นแค่เพียงทางแยกหนึ่งที่ทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเมื่อมองย้อนกลับมา