ต้นพฤษภาคม 2025 ชื่อของ ฟรานเชสโก้ อแซร์บี้ ปราการหลังตัวเก๋าชาวอิตาเลียน กลับมาเป็นที่พูดถึงอย่างล้นหลามอีกครั้ง เมื่อเขาคือผู้ยิงประตูชัยในเกมที่ อินเตอร์ มิลาน เอาชนะ บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ซึ่งนับเป็นประตูแรกในชีวิตของเขาในรายการใหญ่อย่างแชมเปี้ยนส์ลีก จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทีมงูใหญ่ทะยานเข้าสู่รอบชิงได้แบบเซอร์ไพรส์ และยืนยันว่า วัย 37 ปี ก็ยังสามารถสร้างปรากฏการณ์ได้เช่นกัน
เมื่อถึงปลายเดือนพฤษภาคม แม้อินเตอร์จะต้องพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่าเจ็บปวด แต่อแซร์บี้ก็ยังได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง เพราะการนำตัวเองกลับมาเป็นกำลังหลักในเวทีสูงสุดของยุโรปได้ในวัยที่นักเตะทั่วไปเริ่มวางมือกันไปแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลยสำหรับแนวรับผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา
มิถุนายน 2025 คือช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง ในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ ที่ถูกจัดขึ้นในปีนี้ อินเตอร์ลงเล่นถึง 4 นัด แต่ฟรานเชสโก้มีโอกาสลงสนามเพียง 2 เกม และต้องนั่งเป็นตัวสำรองในนัดน็อคเอาต์ที่ทีมกระเด็นตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ภาพของเขาที่นั่งอยู่ข้างสนามดูเงียบสงบ แต่สะท้อนถึงความเจ็บปวดภายในที่ไม่อาจปิดบังได้
กรกฎาคม 2025 ข่าวลือม้วนตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่า อินเตอร์ มิลาน กำลังพิจารณายกเลิกสัญญาของกองหลังผู้มากประสบการณ์รายนี้ ด้วยการจ่ายค่าฉีกสัญญา 500,000 ยูโร ซึ่งอาจเป็นการปิดฉากช่วงเวลาที่แสนปั่นป่วนของอแซร์บี้ภายในเวลาเพียง 3 เดือน ที่เขาต้องไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด และไหลลงสู่ปลายทางที่ไม่มีใครคาดคิด
นี่อาจไม่ใช่ฉากสุดท้ายของเขาบนฟลอร์หญ้า แต่ก็คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ขีดเส้นให้เห็นว่าชีวิตลูกหนังของฟรานเชสโก้ อแซร์บี้ เปรียบได้กับรถไฟเหาะเชิงอารมณ์ และความหมายของคำว่า “มืออาชีพ” ก็คือการมีวินัย ยืนหยัด และพร้อมจะตอบแทนทีมเมื่อถึงเวลาที่โลกทั้งใบกำลังจับตา