หากพูดถึงนักเตะที่เวลายิ่งเดินไป เขากลับยิ่งนิ่ง ยิ่งแม่น และยิ่งเฉียบขึ้นทุกวัน นาทีนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า “ลิโอเนล เมสซี่” คือชายผู้นั้นอย่างแท้จริง
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เขาทำให้โลกต้องหยุดหายใจอีกครั้ง กับฟรีคิกสุดมหัศจรรย์ที่ซัดพุ่งเสียบมุมล่างประตูแบบไร้ที่ติ ท่าทีไร้แรงขุดยิ้ม ไร้อาการดีใจเวอร์วัง ราวกับว่า “เมื่อคืนคิดไว้แล้วว่าจะยิงเข้ามุมนี้” ช็อตนั้นคือคำตอบสุดท้ายว่า วันนี้ เมสซี่ ไม่ได้แค่เล่นบอล…แต่กำลังบงการเกมด้วยศิลป์ขั้นเทพ
จากการเก็บสถิติน่าสนใจ ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา เมสซี่กดฟรีคิกไปแล้วถึง 35 ประตู มากกว่าการยิงจุดโทษเสียอีกที่อยู่ที่ 33 ประตู ตัวเลขบ่งบอกชัดว่า ลูกนิ่งสำหรับเมสซี่ ไม่ใช่แค่ลุ้น แต่เท่ากับ “ลูกยิงที่มีโอกาสเป็นประตูสูงสุด” เลยก็ไม่ผิด
เมสซี่ในวัยปลายสามสิบ ไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วแบบปีกจรวด ไม่ต้องลากเลื้อยฝ่าแนวรับ 3 คนเหมือนสมัยวัยรุ่นอีกต่อไป แต่เขาแค่ยืนอยู่ในจุดที่ใช่ แล้วใส่มุมที่ไม่มีใครไปถึงก็พอ บอกเลยว่า ตอนนี้ถ้าเมสซี่ได้ฟรีคิก ห้ามกะพริบตาเด็ดขาด เพราะอาจพลาดช็อตประวัติศาสตร์แบบไม่รู้ตัว
“ฟรีคิก” ไม่ใช่แค่ลูกสูตรของทีม แต่มันคือเวทีเฉพาะกิจที่เขียนชื่อของเมสซี่ลงในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกไว้อย่างสง่างาม และเหนือใครในยุคนี้อย่างแท้จริง