ซีซั่น 2024-25 คือฤดูกาลประวัติศาสตร์ของโคโม่ สโมสรเล็กจากแคว้นลอมบาร์เดียที่กลับสู่เวทีเซเรียอาครั้งแรกในรอบ 21 ปี เปิดม่านภายใต้การคุมทัพของ “เชสก์ ฟาเบรกาส” อดีตกองกลางระดับโลกที่ผันตัวมาเป็นโค้ชเต็มตัว แม้จะเป็นฤดูกาลแรกในลีกสูงสุด แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความเฉียบคมของกุนซือชาวสเปน โคโม่ไม่เพียงแค่พยายามยืนอยู่ให้รอด แต่ยังคว้าผลงานจบอันดับ 10 แบบน่าประทับใจ
ช่วงแรก ฟาเบรกาสเลือกใช้นักเตะมากประสบการณ์เป็นแกนหลัก เพื่อลดความเสี่ยงจากเกมที่เข้มข้นในลีกสูงสุด ก่อนจะค่อย ๆ หมุนเวียนใส่นักเตะดาวรุ่งเข้ามาสะสมประสบการณ์ และกลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลอย่างมีระเบียบ แสดงรูปแบบการเล่นที่มีไอเดียชัดเจน เป็นระบบ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับแฟนบอลในทุกสัปดาห์
ด้วยแนวทางการทำทีมที่มั่นคง ส่งผลให้ในฤดูกาล 2025-26 ความคาดหวังและเป้าหมายของโคโม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากทีมที่แค่หวังจะรอดตกชั้น กลายเป็นทีมที่กล้าฝันถึงโควต้าฟุตบอลยุโรป
การเสริมทัพจึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของสโมสร เมื่อพวกเขาทุ่มงบเสริมทัพไปแล้วถึง 88.5 ล้านยูโร นับว่าเป็นยอดที่สูงที่สุดในเซเรียอาขณะนี้ และแต่ละรายก็เป็นนักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงที่พร้อมต่อยอดพัฒนาการให้กับทีม
เฆซุส โรดริเกวซ กองหน้าวัย 19 ปีจากเรอัล เบติส, นิโคลัส คุห์น ตัวรุกวัย 25 ปีจากเซลติก, มาร์ติน บาตูริน่า เพลย์เมกเกอร์วัย 22 ปีจากดินาโม ซาเกร็บ, เจเดน แอดได ปีกตัวจี๊ดวัย 19 ปีจากอัล์คม่าร์ และอเล็ก วัลเล่ ฟูลแบ็กวัย 21 ปีจากบาร์เซโลน่า ทั้งหมดต่างเติมมิติเกมรุกและเกมรับให้กับทีมได้ชัดเจน ขณะเดียวกันก็มีการเสริมตัวหลักอย่าง Ignace Van der Brempt แบ็กวัย 23 ปีจากซัลบวร์ก และลูก้า มาซซิเตลลี่ มิดฟิลด์มากประสบการณ์วัย 29 ปีจากโฟรซิโนเน่ เข้ามาช่วยประสานโครงสร้างของทีมให้แข็งแกร่งขึ้น ส่วน เฟลิปเป้ แจ็ค ดาวรุ่งอนาคตไกลวัย 19 ปีจากพัลไมรัส ก็ถูกวางตัวเป็นโปรเจ็กต์ระยะยาว
ฟาเบรกาสยังคงยึดมั่นในแนวทางการปั้นทีมผสมระหว่างประสบการณ์และความสดใหม่ของนักเตะอายุน้อย พร้อมสร้างสไตล์การเล่นที่ชัดเจน กล้าครองบอล กล้าเปิดเกม และวิ่งพล่านทั้งทีมอย่างมีระเบียบ เป้าหมายในฤดูกาลที่สองจึงไม่ใช่แค่ “อยู่รอด” แต่คือ “ไล่ล่าพื้นที่ยุโรป” อย่างชัดเจน
ฤดูกาลนี้ แฟนบอลเซเรียอาจึงจับตามองโคโม่และฟาเบรกาสมากเป็นพิเศษ พวกเขาไม่ได้มาเพื่อแค่มีตัวตนบนตารางคะแนน แต่กำลังเข้าใกล้การเป็นม้ามืดที่พร้อมจะเขย่าเวทีฟุตบอลอิตาลีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า