หากโลกฟุตบอลเป็นภาพยนตร์สักเรื่อง ชื่อนี้ต้องถูกเขียนไว้ในบทที่ทั้งดราม่าและเซอร์ไพรส์ — เอริก มักซิม ชูโป โมติง ในวัย 36 ปี คือหนึ่งในนักเตะที่ยืนยันได้ว่า เส้นทางอาชีพไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ยิ่งใหญ่ หรือจบลงอย่างเงียบเหงาเสมอไป กับฉายาที่แฟนบอลบางกลุ่มแซวว่า “วาสนาดี” กับอีกหลายเสียงที่ยกย่องว่า “เอเย่นต์คุณภาพ” เขานี่แหละคือตัวแทนของนักเตะที่อาจไม่ได้อยู่แถวหน้าเสมอมา แต่กลับเฉิดฉายในจังหวะที่เหมาะสมเสมอไป
ชีวิตลูกหนังของเขาโลดโผนกว่าที่ใครจะคาดคิด จากผู้เล่นที่เคยตกชั้นกับสโต๊ค ซิตี้ ย้ายร่วมทีมมหาเศรษฐีปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง คว้าแชมป์ลีกเอิงกับซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ก่อนจะกลายเป็นจอมซัลโวชั่วครู่กับ บาเยิร์น มิวนิก ในฤดูกาล 2022-23 ที่เขาซัดไป 17 ประตูและ 4 แอสซิสต์ จาก 30 นัด โดยสองประตูสำคัญก็มาจากทีมยักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลนาและเปแอสเช
หลังจากหมดสัญญากับยอดทีมเมืองเบียร์ หลายคนอาจคิดว่า “นี่คงเป็นฉากสุดท้ายของเส้นทางระดับสูง” แต่ชูโป โมติงกลับปรากฏตัวอย่างเงียบๆ กับ นิวยอร์ก เร้ดบูลส์ ในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา กลายเป็นบทใหม่ที่ร้อนแรงเกินคาดเดา
แม้สามนัดแรกยังไร้ชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่เมื่อประตูแรกบังเกิดในเกมพบกับออร์แลนโด้ ซิตี้ ราวกับว่าเท้าขวาข้างเดิม กลับมาเยี่ยงเดิม ประตูถัดไปเริ่มทะลักพุ่งราวเขื่อนแตก ปัจจุบันเขายิงไปแล้ว 12 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 23 นัด กลายเป็นดาวซัลโวของทีม พร้อมไต่อันดับขึ้นมาติด 1 ใน 5 ดาวซัลโวสูงสุดของลีกในขณะนี้
ยิ่งไปกว่านั้น 7 นัดหลังสุด เขายังยิงได้ถึง 5 ประตู ช่วยผลักดันนิวยอร์ก เร้ดบูลส์ให้กลายเป็นทีมที่น่าจับตาใน MLS ซึ่งหากเขายังรักษาฟอร์มเช่นนี้ได้อย่างต่อเนื่อง บางทีเส้นทางขาขึ้นบทใหม่อาจกำลังเริ่มต้นอีกครั้ง ณ ดินแดนแห่งฝัน และอาจไม่มีใครตั้งคำถามอีกต่อไปว่า ที่ผ่านมาเขามาไกลด้วย “วาสนา” หรือ “ความสามารถ” กันแน่
สำหรับแฟนบอล ที่ยังติดภาพ “ตัวตลกโชคดี” อาจต้องมองใหม่ในมุมที่ลึกลงไปกว่านั้น เพราะบางครั้ง คำว่า ‘โอกาส’ ก็เป็นสิ่งที่ได้รับรางวัลมาด้วยความอดทน