ในแวดวงฟุตบอลระดับโลก การย้ายทีมแต่ละครั้งมักเต็มไปด้วยเบื้องหลังมากมาย ทั้งเรื่องเงิน เรื่องความสามารถ หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่าคำว่า “เพื่อนร่วมทีม” เช่นเดียวกับกรณีของ โรดริโก้ เดอ ปอล นักเตะจากแอตเลติโก มาดริด ที่ว่ากันว่า อินเตอร์ ไมอามี่ พร้อมจ่ายถึง 15 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวเขาเข้าร่วมทีม
ไม่ใช่แค่เพราะความสามารถในสนามว่าสมราคาครองแชมป์โลกกับทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ยังเพราะเขาเป็น “บอดี้การ์ดส่วนตัว” ที่แท้จริงของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ไม่อาจมีกฏใดของเมเจอร์ลีกมาห้ามได้
เพราะในขณะที่เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ (MLS) ออกกฎใหม่อย่างเด็ดขาดไม่ให้ “บอดี้การ์ด” ของนักเตะ ไม่ว่าจะยืน เฝ้า หรือแม้แต่นั่งข้างสนามในช่วงเวลาที่แข่งขัน อินเตอร์ ไมอามี่ จึงหาหนทางที่ฉลาดและสร้างสรรค์จนแทบต้องเอาไปเขียนเป็นตำรา
พวกเขา “ซื้อ” บอดี้การ์ดให้กลายเป็น “นักฟุตบอล” ซะเลย
นอกจากฝีเท้าที่ยังดีพอจะเล่นในลีกยุโรปได้อยู่ เดอ ปอล วัย 31 ปี ผ่านประสบการณ์ในยุโรปมากว่า 400 นัด เขาเป็นตัวเชื่อมเกมกลางสนามที่ไว้ใจได้ทั้งการต่อบอล เกมรับ และการสร้างพื้นที่ให้เพื่อนเล่นง่ายขึ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในฟุตบอลโลก 2022 คือ เขาไม่เคยห่างเมสซี่แม้แต่วินาทีเดียว ทั้งในสนาม ซ้อม หรือเดินเข้าออกสนามบิน ว่ากันว่าเขาคือ “ร่างแยก” ของซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของโลก
การได้เดอ ปอล มาร่วมทีม อินเตอร์ ไมอามี่ จึงไม่เพียงแต่ได้มิดฟิลด์คุณภาพติดทีมแชมป์โลก แต่หมายถึงเมสซี่จะอยู่ในสภาพจิตใจที่ดีที่สุด มีความสุข และปลอดภัยที่สุด
คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ในวันที่ต้องซื้อใครสักคน ที่มากกว่านักเตะ คือ “คนสำคัญที่สุดของคนสำคัญที่สุด” ในสโมสร
และแม้เสียงวิจารณ์จากยุโรปจะกระหึ่มว่ามันเร็วไปไหมที่เดอ ปอลจะย้ายออกจากลีกท็อปของยุโรป แต่หากมองอีกแง่…นี่อาจเป็น “ดีลที่แฟร์ที่สุด” ที่สุดของคนที่ “รู้หน้าที่” ลึกซึ้งยิ่งกว่าหน้าที่ในเกมฟุตบอล
ในวันที่กฎว่าด้วยบอดี้การ์ดห้ามเข้าใกล้สนาม…อินเตอร์ ไมอามี่ กำลังจะทำให้โลกต้องพูดถึง ด้วยการส่ง “บอดี้การ์ดลงสนามแข่งฟุตบอล”
โรดริโก้ เดอ ปอล บอดี้การ์ดหมายเลข 1 ที่ลากเส้นชีวิตตัวเองคู่ขนานกับตำนานหมายเลข 10