เฟร์นานโด ซานโตส ชื่อที่แฟนบอลชาวโปรตุเกสรู้จักกันดีในฐานะผู้ปลุกชีพทีม “ฝอยทอง” ให้กลายเป็นแชมป์ยุโรปคนใหม่ ด้วยการพาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร 2016 และเนชั่นส์ ลีก 2019 นับเป็นยุคทองของทีมชาติที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นหัวหอก และซานโตสคือคนที่อยู่หลังม่านความสำเร็จนั้น
ตลอดการคุมทัพโปรตุเกส 109 นัด เขาพาทีมชนะคู่แข่งในเกมใหญ่หลายครั้ง พร้อมสร้างระบบเล่นที่เต็มไปด้วยวินัย แม้สไตล์จะไม่เร้าใจแต่ผลลัพธ์คือความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการหยุดสถิติไร้พ่ายของฝรั่งเศสในเนชั่นส์ ลีก หรือการคว้าแชมป์เมเจอร์ระดับชาติสมัยแรกในประวัติศาสตร์ชาติที่คนทั้งประเทศรอคอยมานาน
หลังจากสิ้นสุดบทบาทกับทีมบ้านเกิด เขาเลือกข้ามมาเริ่มต้นภารกิจใหม่กับอีกหนึ่งทีมระดับหัวแถวของยุโรปอย่าง ทีมชาติโปแลนด์ แม้เส้นทางจะสั้นเพียงแค่ 6 นัด (ชนะ 3 แพ้ 3) แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาได้ประสานงานกับหนึ่งในกองหน้าชั้นยอดของยุคนี้อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แม้จะจบไม่สวยนัก แต่หลายคนก็ยังมองว่าฝีไม้ลายมือของซานโตสนั้นยังไม่หมดไฟ
จุดหักเหครั้งล่าสุดของชีวิตการคุมทีมคือการตอบรับคุม ทีมชาติอาเซอร์ไบจัน ซึ่งถูกมองว่าเป็นชาติเล็กในแถบคอเคซัส แต่ซานโตสประกาศด้วยความมั่นใจว่า “เป้าหมายของผมคือ การพา อาเซอร์ไบจัน ไปเล่นในยูโร 2028” พร้อมเอาชื่อเสียงทั้งหมดมาเดิมพัน
แต่เส้นทางที่วาดฝันไว้กลับพลิกผัน ใน 11 นัดที่คุมทีม สถิติสะท้อนชัดถึงความยากลำบาก เสมอ 2 แพ้ถึง 9 ยิงได้เพียง 4 ประตู แต่เสียไปถึง 29 ประตู ก่อนลงเอยด้วยการถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ จากความตั้งใจที่จะเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับชาติเล็ก กลายเป็นความผิดหวังที่อาจเจ็บปวดที่สุดในชีวิตการคุมทีม
วันนี้แม้จะไม่มีทีมในมือ แต่ชื่อของ เฟร์นานโด ซานโตส ยังเป็นสัญลักษณ์ของโค้ชที่พาทีมชาติประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ความพ่ายแพ้อาจทำให้คนลืมเร็ว แต่ความสำเร็จในยูโร 2016 จะยังคงอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลตลอดไป